เด็กยุคของการแข่งขันสูง การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่พ่อแม่ให้ความสำคัญและมุ่งเน้น

ให้ลูกเก่ง เฉลียวฉลาด ไม่แพ้คนอื่น ทำให้หลายครอบครัวเกิดความเครียดและกังวลใจตั้งแต่การเฟ้นหา

สถาบันการศึกษา เพื่อเสริมสร้างความรู้ที่ดีให้กับเด็กและตอบโจทย์ความต้องการของพ่อแม่ รู้หรือไม่

ว่ามันส่งผลให้เด็กเกิดภาวะความเครียดได้

ความเครียดในเด็ก แบ่งเป็น 2 ระดับ

ระดับที่ 1 : ภาวะเครียดฉับพลัน (Acute Stress) จะเกิดในช่วงเวลาสั้นๆ

ระดับที่ 2 : ภาวะเครียดเรื้อรัง (Chronic Stress) จะทำให้เด็กต้องทุกข์ทรมานเป็นเวลานานๆ

และอาจส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงเคมีในสมอง (Brain Chemistry) และทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง

สังเกตุอาการของเด็กที่มีความเครียด

• ร้องไห้และกรีดร้องบ่อยครั้ง
• ก้าวร้าว ดื้อดึง เกเร ขี้หงุดหงิด ขี้แย
• พัฒนาการในการเรียนรู้ช้าหรือลด
• ขาดความมั่นใจ วิตกกังวล มีความกลัว
• แยกตัวจากเพื่อน เล่นน้อยลง
• ไม่มีสมาธิ มีปัญหาด้านความจำ บ่นปวดศรีษะ
• น้ำหนักน้อย ตกเกณฑ์ ไม่อยากอาหาร
• ปวดท้อง มีปัญหาในการย่อยอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
• นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท ฝันร้าย

วิธีการลดความเครียดของเด็ก

1. การทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว

เช่น ทานข้าวร่วมกัน ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ ให้เด็กได้ช่วยงานบ้านเล็กๆน้อยๆ

เพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ดี  มีความสุข ทำให้เด็กลืมเรื่องเครียด อีกทั้งยังทำให้เกิดความอบอุ่น

ในครอบครัวด้วย

2. การพูดอย่างสร้างสรรค์ แสดงอารมณ์ในทางบวก

พูดในทางบวก การชมเชยลูก การให้กำลังใจ ในการสอนลูก ควรใช้คำพูดที่สุภาพ

เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี และช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณและเด็กมีคุณภาพขึ้น

3.ให้เด็กได้ทำกิจกรรมการเรียนรู้ใหม่ๆ

นอกจากการเรียน เสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้เด็ก รู้จักความผิดพลาดบ้าง

เพื่อทำให้เด็กเกิดความเรียนรู้ รู้จักปรับตัวและรู้จักแก้ไขปัญหา

4. การยอมรับและไม่บังคับเด็กทำในสิ่งที่ยังไม่พร้อม

ไม่เร่งเด็กในด้านวิชาการมากจนเกินไป ให้เวลาลูกเรียนรู้ปรับตัวด้านสังคมด้วย

ได้ใช้เวลาทำกิจกรรมอื่นหรือเล่นกับเพื่อน เพื่อเด็กมีทักษะการเข้าสังคม เข้ากับเพื่อนได้

5.รับฟังความคิดเห็น

เมื่อลูกทำผิด ต้องรับฟัง ถามถึงเหตุผล ทำความเข้าใจ จะทำให้เราสามารถสอนลูกได้อย่างถูกต้อง

และส่งเสริมให้เด็กได้แก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้น

“ความเครียดในเด็ก” ถือเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องเข้าใจและดูแล อย่าปล่อยปละละเลย

ให้เป็นปัญหาเรื้อรังทำร้ายลูกของเราได้